โครงการสร้างภูมิ เสริมพลัง ต้านภัยโควิด

MU-SDGs Case Study*

โครงการสร้างภูมิ เสริมพลัง ต้านภัยโควิด

ผู้ดำเนินการหลัก*

นางสาวสาธิดา ต๊ะคีรี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน

ส่วนงานหลัก*

หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน โครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ผู้ดำเนินการร่วม

คณาจารย์หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน

ส่วนงานร่วม

เนื้อหา*

จากการศึกษาปัญหาสุขภาพชุมชน พบว่า ปัญหาการไม่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นปัญหาอันดับที่ 1 โดยสาเหตุของปัญหามาจากการไม่ได้รับการสนับสนุนจากบุคลากรสาธารณสุขอย่างเพียงพอ รวมไปถึงการไม่รับรู้ความรุนแรงและโอกาสเสี่ยงของการไม่ฉีดวัคซีน การไม่รับรู้ประโยชน์ของการฉีดวัคซีน อีกทั้งยังมีอุปสรรคต่อการเดินทางไปฉีดวัคซีนที่สถานพยาบาล มีความกังวล กลัวผลข้างเคียงจากวัคซีน ซึ่งการไม่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 นั้นย่อมส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อร่างกาย จิตใจ และเศรษฐกิจตามมา

 

ดังนั้น นางสาวสาธิดา ต๊ะคีรี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน โครงการจัดตั้งมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตนครสวรรค์ ร่วมกับโรงพยาบาลบางปลาม้า ผู้นำชุมชน และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ได้ดำเนินโครงการ “สร้างภูมิ เสริมพลัง ต้านภัยโควิด” ณ ชุมชนบ้านโคกครามสามัคคี ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ระหว่างวันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2564 – วันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2565 ซึ่งทางนักศึกษาได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาสุขภาพดังกล่าวด้วยการใช้เครื่องมือและวิธีการต่าง ๆ ที่นักศึกษาได้ออกแบบเองโดยร่วมมือกับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ผู้นำชุมชน และ อสม. ในการใช้แรงสนับสนุนทางสังคมทั้งการให้ข้อมูลผ่านคู่มือที่น่าสนใจ เข้าใจง่าย และทำให้คนในชุมชนที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนดังกล่าวจำนวนทั้งสิ้น 30 คน ได้รับรู้โอกาสเสี่ยงของการไม่ฉีดวัคซีน การรับรู้ประโยชน์ของการฉีดวัคซีน รวมไปถึงการสนับสนุนทางด้านอารมณ์ คลายความกังวลเรื่องผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน และช่วยอำนวยความสะดวกพาคนในชุมชนไปฉีดวัคซีนที่สถานพยาบาล จนทำให้อัตราการได้รับวัคซีนของคนในชุมชนเพิ่มมากขึ้น

 

ทั้งนี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความอนุเคราะห์ในการดำเนินโครงการและจะนำโครงการของนักศึกษาไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานในอนาคตเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน(Sustainable Development Goals: SDGs) สืบต่อไปในอนาคต 

SDGs หลักที่สอดคล้องกับกิจกรรม*

SDGs 3

เป้าประสงค์ย่อยใน SDG หลัก*

3.8

SDGs อื่น ๆ ที่สอดคล้อง

เป้าประสงค์ย่อยใน SDG อื่นๆ

Links ข้อมูลเพิ่มเติม *

https://www.facebook.com/402782096876991/posts/1283976538757538/?d=n

โปรดแนบลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

โปรดแนบลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

MU-SDGs Strategy*

ยุทธศาสตร์ที่ 3

Partners/Stakeholders*

1. โรงพยาบาลบางปลาม้า อ.บางปลามม้า จ.สุพรรณบุรี

2. อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หมู่ 7 บ้านปากคลองกุ่ม ต.โคกคราม อ.บางปลามม้า จ.สุพรรณบุรี

ภาพประกอบ (3-5 ภาพ)*

Key Message*

การเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนด้วยการร่วมมือร่วมใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนในให้แรงสนับสนุนทางสังคมเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

ตัวชี้วัด THE Impact* Rankings ที่สอดคล้อง

3.3.1, 3.3.2

 

โครงการการเดินทางสู่หมู่บ้านคลายความเครียด

MU-SDGs Case Study*

โครงการการเดินทางสู่หมู่บ้านคลายความเครียด

ผู้ดำเนินการหลัก*

นางสาวพรรณวดี ระกุล นักศึกษาชั้นปีที่ 4 หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน

ส่วนงานหลัก*

หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน โครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ผู้ดำเนินการร่วม

คณาจารย์หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน

ส่วนงานร่วม

เนื้อหา*

จากการศึกษาปัญหาสุขภาพชุมชน พบว่า สถานการณ์โรค COVID-19 ทำให้คนในชุมชนเกิดความเครียด และมีบางรายฆ่าตัวตายสำเร็จ โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการขาดการจัดการความเครียด การขาดการได้รับคำปรึกษาจากคนรอบข้าง ซึ่งปัญหาดังกล่าวนั้นส่งผลกระทบต่อสุขภาพกาย และสุขภาพจิตของคนในชุมชนเป็นอย่างมาก

 

นางสาวพรรณวดี ระกุล นักศึกษาชั้นปีที่ 4 หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน โครงการจัดตั้งมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตนครสวรรค์ ร่วมกับโรงพยาบาลบางปลาม้า และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ได้ดำเนินโครงการ “การเดินทางสู่หมู่บ้านคลายความเครียด” ณ ชุมชนบ้านปากคลองกุ่ม ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ระหว่างวันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2564 – วันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2565

ซึ่งทางนักศึกษาได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาสุขภาพดังกล่าวด้วยการใช้เครื่องมือและวิธีการต่าง ๆ ที่นักศึกษาได้ออกแบบเองโดยร่วมมือกับบุคลากรทางการแพทย์ และ อสม. ในการใช้แรงสนับสนุนทางสังคมทั้งการให้ข้อมูลผ่านแผ่นพับที่น่าสนใจและเข้าใจง่าย การสนับสนุนทางด้านอารมณ์ผ่านการทำตุ๊กตาบีบคลายเครียด และการส่งข้อความให้กำลังใจ อีกทั้งผู้ที่มีภาวะเครียดในชุมชนสามารถประเมินความเครียดของตนได้เอง และมีช่องทางต่าง ๆ ที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพจิต ซึ่งทำให้กลุ่มคนดังกล่าวมีความเครียดลดลง และมีกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป

 

ทั้งนี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความอนุเคราะห์ในการดำเนินโครงการและจะนำโครงการของนักศึกษาไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานในอนาคตเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน(Sustainable Development Goals: SDGs) สืบต่อไปในอนาคต 

SDGs หลักที่สอดคล้องกับกิจกรรม*

SDGs 3

เป้าประสงค์ย่อยใน SDG หลัก*

3.4

SDGs อื่น ๆ ที่สอดคล้อง

เป้าประสงค์ย่อยใน SDG อื่นๆ

Links ข้อมูลเพิ่มเติม *

https://www.facebook.com/402782096876991/posts/1283329225488936/?d=n

โปรดแนบลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

โปรดแนบลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

MU-SDGs Strategy*

ยุทธศาสตร์ที่ 3

Partners/Stakeholders*

1. โรงพยาบาลบางปลาม้า อ.บางปลามม้า จ.สุพรรณบุรี

2. อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หมู่ 7 บ้านปากคลองกุ่ม ต.โคกคราม อ.บางปลามม้า จ.สุพรรณบุรี

ภาพประกอบ (3-5 ภาพ)*

 
  

Key Message*

การลดระดับความเครียดในผู้ดูแลผู้ป่วยติดบ้าน ติดเตียงด้วยการร่วมมือร่วมใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนในให้แรงสนับสนุนทางสังคมเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

ตัวชี้วัด THE Impact* Rankings ที่สอดคล้อง

3.3.1, 3.3.2

 

โครงการคู่มือเพื่อนซี้ คู่หูคลายเครียด self-talk meditation

MU-SDGs Case Study*

โครงการคู่มือเพื่อนซี้ คู่หูคลายเครียด self-talk meditation

ผู้ดำเนินการหลัก*

นายดรัล รักธัญญะการ

นักศึกษาชั้นปีที่ 4 หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน

ส่วนงานหลัก*

หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน โครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ผู้ดำเนินการร่วม

คณาจารย์หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน

ส่วนงานร่วม

เนื้อหา*

จากการศึกษาปัญหาสุขภาพชุมชน พบว่า ผู้ดูแลผู้ป่วยติดบ้าน ติดเตียงถือว่าเป็นกำลังสำคัญหลักในครอบครัวนั้นมีแนวโน้มประสบกับปัญหาทางด้านอารมณ์และความเครียดเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งกลุ่มผู้ดูแลดังกล่าวนั้นยังถูกถูกละเลยการประเมินสภาพจิตใจตามขั้นตอนที่ถูกต้องและเหมาะสมทำให้คุณภาพการดูแลสุขภาพจิตของผู้ดูแลลดลงและขาดวิธีการที่ถูกต้องในการลดความเครียด ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพกายและสุขภาพจิตตามมาได้ในอนาคต

 

ดังนั้น นายดรัล รักธัญญะการ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน โครงการจัดตั้งมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตนครสวรรค์ ร่วมกับศูนย์สุขภาพชุมชนตำบลหนองหาร โรงพยาบาลสันทราย ผู้นำชุมชน และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ได้ดำเนินโครงการ “คู่มือเพื่อนซี้ คู่หูคลายเครียด self-talk meditation” ณ ชุมชนบ้านทุ่งหมื่นน้อย ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2564 – วันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2565 ซึ่งทางนักศึกษาได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาสุขภาพดังกล่าวด้วยการใช้เครื่องมือและวิธีการต่าง ๆ ที่นักศึกษาได้ออกแบบเองโดยร่วมมือกับบุคลากรทางการแพทย์ ผู้นำชุมชน และ อสม. ในการให้แรงสนับสนุนทางสังคมทั้งการให้ข้อมูลวิธีการคลายเครียดผ่านทางคู่มือที่มีความน่าสนใจและเข้าใจง่าย ประกอบกับการสนับสนุนทางด้านอารมณ์ผ่านการให้กำลังใจในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งทำให้กลุ่มผู้ดูแลดังกล่าวมีระดับความเครียดที่ลดลง

 

ทั้งนี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความอนุเคราะห์ในการดำเนินโครงการและจะนำโครงการของนักศึกษาไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานในอนาคตเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน(Sustainable Development Goals: SDGs) สืบต่อไปในอนาคต 

SDGs หลักที่สอดคล้องกับกิจกรรม*

SDGs 3

เป้าประสงค์ย่อยใน SDG หลัก*

3.4

SDGs อื่น ๆ ที่สอดคล้อง

เป้าประสงค์ย่อยใน SDG อื่นๆ

Links ข้อมูลเพิ่มเติม *

https://www.facebook.com/402782096876991/posts/1283324588822733/?d=n

โปรดแนบลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

โปรดแนบลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

MU-SDGs Strategy*

ยุทธศาสตร์ที่ 3

Partners/Stakeholders*

1. โรงพยาบาลสันทราย อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่

2. ศูนย์สุขภาพชุมชนตำบลหนองหาร โรงพยาบาลสันทราย อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่

3. ผู้นำชุมชน หมู่ 9 บ้านทุ่งหมื่นน้อย  ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่

4. อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หมู่ 9 บ้านทุ่งหมื่นน้อย ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่

ภาพประกอบ (3-5 ภาพ)*

   
  

Key Message*

การลดระดับความเครียดในผู้ดูแลผู้ป่วยติดบ้าน ติดเตียงด้วยการร่วมมือร่วมใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนในให้แรงสนับสนุนทางสังคมเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

ตัวชี้วัด THE Impact* Rankings ที่สอดคล้อง

3.3.1, 3.3.2

 

โครงการชาวสวนปลอดภัย ห่างไกล MSDs

MU-SDGs Case Study*

โครงการชาวสวนปลอดภัย ห่างไกล MSDs

ผู้ดำเนินการหลัก*

นางสาวอาวาติฟ ยานยา

นักศึกษาชั้นปีที่ 4 หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน

ส่วนงานหลัก*

หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน โครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ผู้ดำเนินการร่วม

คณาจารย์หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน

ส่วนงานร่วม

เนื้อหา*

จากการศึกษาปัญหาสุขภาพชุมชน พบว่า กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราในพื้นที่ มีแนวโน้มของความผิดปกติทางระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อ (Musculoskeletal disorders: MSDs) เพิ่มมากขึ้น และเกษตรกรกลุ่มดังกล่าวขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการป้องกันตนเองจากโรคที่เกิดจากการทำงานมีการปฏิบัติงานที่ถูกต้องตามหลักการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน รวมทั้งขาดอุปกรณ์ที่ช่วยบรรเทาความเมื่อยล้าหลังจากการทำงาน ซึ่งปัญหาสุขภาพดังกล่าวนั้นส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและสุขภาะจิตของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางเป็นอย่างยิ่ง

 

ดังนั้น นางสาวอาวาติฟ ยานยา นักศึกษาชั้นปีที่ 4 หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน โครงการจัดตั้งมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตนครสวรรค์ ร่วมกับหน่วยบริการปฐมภูมิ (Primary Care Unit: PCU) คลินิกแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลคลองท่อม ผู้นำชุมชน และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ได้ดำเนินโครงการ “ชาวสวนปลอดภัย ห่างไกล MSDs” ณ ชุมชนบ้านเหนือ ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ระหว่างวันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2564 – วันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2565 ซึ่งทางนักศึกษาได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาสุขภาพดังกล่าวด้วยการใช้เครื่องมือและวิธีการต่าง ๆ ที่นักศึกษาได้ออกแบบเองโดยร่วมมือกับบุคลากรทางการแพทย์ ผู้นำชุมชน และ อสม. ในการสร้างเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรค MSDs เพื่อนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอันเป็นสาเหตุของการบาดเจ็บจากการทำงานให้แก่กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราจำนวนทั้งสิ้น 15 คน พร้อมทั้งยังร่วมมือกับหน่วยงานข้างต้น และเกษตรกรกลุ่มดังกล่าวในการนำสมุนไพรพื้นถิ่นมาผลิตนวัตกรรมแผ่นประคบร้อนสมุนไพรบรรเทาอาการปวดเบื้องต้นอีกด้วย

 

ทั้งนี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความอนุเคราะห์ในการดำเนินโครงการและจะนำโครงการของนักศึกษาไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานในอนาคตเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน(Sustainable Development Goals: SDGs) สืบต่อไปในอนาคต  

SDGs หลักที่สอดคล้องกับกิจกรรม*

SDGs 3

เป้าประสงค์ย่อยใน SDG หลัก*

3.4

SDGs อื่น ๆ ที่สอดคล้อง

เป้าประสงค์ย่อยใน SDG อื่นๆ

Links ข้อมูลเพิ่มเติม *

https://www.facebook.com/402782096876991/posts/1283319492156576/?d=n

โปรดแนบลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

โปรดแนบลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

MU-SDGs Strategy*

ยุทธศาสตร์ที่ 3

Partners/Stakeholders*

1. โรงพยาบาลคลองท่อม อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่

2. หน่วยบริการปฐมภูมิ โรงพยาบาลคลองท่อม อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่

3. คลินิกแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลคลองท่อม อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่

4. อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หมู่ที่ 1 ตำบลคลองท่อมใต้ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่

5. ผู้นำชุมชนหมู่ที่ 1 ตำบลคลองท่อมใต้ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่

ภาพประกอบ (3-5 ภาพ)*

 
 

Key Message*

การแก้ปัญหาความผิดปกติทางระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อของเกษตรกรด้วยการร่วมมือร่วมใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนในการสร้างเสริมความรู้เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว และนำสมุนไพรพื้นถิ่นมาผลิตนวัตกรรมแผ่นประคบร้อนสมุนไพรบรรเทาอาการปวดเบื้องต้นเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

ตัวชี้วัด THE Impact* Rankings ที่สอดคล้อง

3.3.1, 3.3.2

 

โครงการป่าสักรวมใจ เด็กไทยฟันดี

MU-SDGs Case Study*

โครงการป่าสักรวมใจ เด็กไทยฟันดี

ผู้ดำเนินการหลัก*

นางสาวมณีรัตน์  ไตรรัตน์

นักศึกษาชั้นปีที่ 4 หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน

ส่วนงานหลัก*

หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน โครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ผู้ดำเนินการร่วม

คณาจารย์หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน

ส่วนงานร่วม

เนื้อหา*

จากการศึกษาปัญหาสุขภาพชุมชน พบว่า สถานการณ์โรค COVID-19 ทำให้เด็กนักเรียนไม่สามารถเข้ารับบริการเกี่ยวกับทันตสุขภาพได้ และจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารของเด็กนักเรียนที่บริโภคที่ไม่เหมาะสม และการดูแลสุขภาพในช่องปากที่ไม่ถูกวิธี จึงทำให้เด็กนักเรียนมีปัญหาฟันผุเพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตของเด็กนักเรียน และอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมาได้อีกในอนาคต

ดังนั้น นางสาวมณีรัตน์ ไตรรัตน์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน โครงการจัดตั้งมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตนครสวรรค์ จึงร่วมมือกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดาวเรือง อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และโรงเรียนวัดป่าสัก ในการดำเนินโครงการ “ป่าสักรวมใจ…เด็กไทยฟันดี” ณ ชุมชนบ้านป่าสัก ต.ดาวเรือง อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี ระหว่างวันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2564 – วันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2565 ซึ่งทางนักศึกษาได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาสุขภาพดังกล่าวด้วยการใช้เครื่องมือและวิธีการต่าง ๆ ที่นักศึกษาได้ออกแบบเองโดยร่วมมือกับบุคลากรทางการแพทย์ อสม. และอาจารย์ในโรงเรียน ในการสร้างเสริมความรู้ในเรื่องสุขภาพในช่องปาก และการแปรงฟันที่ถูกต้อง สร้างเสริมเจตคติและพฤติกรรมในเรื่องสุขภาพในช่องปาก และการแปรงฟันที่ถูกต้อง และเพิ่มพูนทักษะในการแปรงฟันที่ถูกวิธีให้แก่เด็กวัยเรียนในชุมชนจำนวนทั้งสิ้น 16 คน

ทั้งนี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความอนุเคราะห์ในการดำเนินโครงการและจะนำโครงการของนักศึกษาไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานในอนาคตเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน(Sustainable Development Goals: SDGs) สืบต่อไปในอนาคต  

SDGs หลักที่สอดคล้องกับกิจกรรม*

SDGs 3

เป้าประสงค์ย่อยใน SDG หลัก*

3.4

SDGs อื่น ๆ ที่สอดคล้อง

เป้าประสงค์ย่อยใน SDG อื่นๆ

Links ข้อมูลเพิ่มเติม *

https://www.facebook.com/402782096876991/posts/1283314278823764/?d=n

โปรดแนบลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

โปรดแนบลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

MU-SDGs Strategy*

ยุทธศาสตร์ที่ 3

Partners/Stakeholders*

1. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดาวเรือง อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี

2. อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หมู่ 4 บ้านป่าสัก ต.ดาวเรือง อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี

3. โรงเรียนวัดป่าสัก หมู่ 4 บ้านป่าสัก ต.ดาวเรือง อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี

ภาพประกอบ (3-5 ภาพ)*

   




Key Message*

การแก้ปัญหาสุขภาพช่องปากของเด็กวัยเรียนด้วยการร่วมมือร่วมใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนในการสร้างเสริมความรู้ เจตคติ และทักษะในการดูแลสุขภาพช่องปากให้แก่เด็กวัยเรียนเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

ตัวชี้วัด THE Impact* Rankings ที่สอดคล้อง

3.3.1, 3.3.2

วัคซีนเพื่อชุมชน

MU-SDGs Case Study*

วัคซีนเพื่อชุมชน

ผู้ดำเนินการหลัก*

นายแพทย์เชิดเกียรติ  เติมเกษมศานต์

ส่วนงานหลัก*

ศูนย์การแพทย์มหิดลบำรุงรักษ์ จังหวัดนครรสวรรค์

ผู้ดำเนินการร่วม

นางสาวสิริกร  นาคมณี

และงานวัคซีน ศูนย์การแพทย์มหิดลบำรุงรักษ์

จังหวัดนครรสวรรค์

ส่วนงานร่วม

สำนักงาน คปภ. , สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครสวรรค์ , อบต.เขาทอง , รพ.สต.เขาทอง , ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ,

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครสวรรค์

เนื้อหา*

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส ๒๐๑๙ ที่มีการแพร่ระบาดอย่างมากทั้งในประเทศไทย และทั่วโลกนั้น ก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างกว้างขวาง ดังนั้นทางออกที่ยั่งยืนของวิกฤตครั้งนี้ คือ การให้วัคซีนป้องกันการติดเชื้อ COVID-๑๙ กับคนส่วนใหญ่ของประเทศ

          ในการนี้เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชนทั่วไปรวมทั้งกลุ่มผู้พิการและกลุ่มเปราะบาง ผู้ป่วยติดเตียง และนักเรียนมัธยม ศูนย์การแพทย์มหิดลบำรุงรักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ โครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยมหิดล จึงได้ดำเนินการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด๑๙ ทั้งวัคซีนหลัก และ วัคซีนทางเลือก ในวัคซีนหลักศูนย์การแพทย์มหิดลบำรุงรักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ได้ให้บริการฉีดวัคซีนกับผู้ที่จองผ่านระบบ และจองผ่านเจ้าหน้าที่ อสม. ทำให้ประชาชนในกลุ่มเป้าหมายคือผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคของตำบลเขาทองได้รับวัคซีนมากกว่า ๗๐%ตามเป้า และขยายเป้าหมายสู่ประชาชนทั่วไป อีกทั้งให้บริการวัคซีนทางเลือกโดยไม่คิดค่าบริการในกลุ่มผู้พิการและกลุ่มเปราะบางของจังหวัดนครสวรรค์ จำนวน ๒๒๖ คน โดยความร่วมมือกับสำนักงาน คปภ. และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครสวรรค์ และเพิ่มความครอบคลุมในการดูแลประชาชนในเขตเขาทองให้ได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะผู้ป่วยติดเตียง ศูนย์การแพทย์มหิดลบำรุงรักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ ร่วมกับทีมอาจารย์ในมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตนครสวรรค์ ออกให้บริการฉีดวัคซีนถึงบ้านจำนวน ๓๐ คน โดยได้รับความร่วมมือจาก อบต.เขาทองและเจ้าหน้าที่ อสม.ในพื้นที่ และยังฉีดวัคซีนให้กับนักเรียนมัธยมจำนวน ๓๑๗ คน เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงวัคซีนโควิด๑๙ ได้อย่างทั่วถึง อันจะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd immunity) ให้กับประชาชนโดยผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจประชาชนในเขตพื้นที่เขาทองมีความพึงพอใจ และได้รับวัคซีนมากกว่า ๗๐% ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ ครอบคลุมทุกกลุ่มวัย และกลุ่มเปราะบาง เช่นผู้ด้อยโอกาส ผู้ป่วยติดเตียง เป็นต้น

SDGs หลักที่สอดคล้องกับกิจกรรม*

SDG 11

เป้าประสงค์ย่อยใน SDG หลัก*

SDG 11.1 , 11.7 , 11.b

SDGs อื่น ๆ ที่สอดคล้อง

SDG 3

เป้าประสงค์ย่อยใน SDG อื่นๆ

3.3 , 3.b

 

Links ข้อมูลเพิ่มเติม *

https://www.facebook.com/111082602286281/posts/4587250791336084/

https://www.facebook.com/111082602286281/posts/4543711679023329/

https://www.facebook.com/111082602286281/posts/4475585035835994/

MU-SDGs Strategy*

ยุทธศาสตร์ที่ ๔ Excellence in management for sustainable organization

Partners/Stakeholders*

สำนักงาน คปภ. , สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครสวรรค์ , อบต.เขาทอง , รพ.สต.เขาทอง , ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ , สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครสวรรค์

ภาพประกอบ (3-5 ภาพ)*

   
 
   

 

 

Key Message*

ประชาชนทั่วไปและกลุ่มเป้าหมาย 608 ในจังหวัดนครสวรรค์ ,นักเรียนโรงเรียนเขาทอง และ โรงเรียนเขาทองพิทยาคม , ผู้ป่วยติดเตียงและผ้สูงอายุในเขตตำบลเขาทอง ,กลุ่มผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส ได้เข้าถึงวัคซีนอย่างทั่วถึงมากกว่า ๗๐% ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd immunity) ให้กับประชาชน

ตัวชี้วัด THE Impact* Rankings ที่สอดคล้อง

17.2.5

เขาทองบำรุงสุข มหิดลบำรุงรักษ์


Warning: sort() expects at least 1 parameter, 0 given in /var/www/html/sdgs/wp-content/themes/wp-bootstrap-starter-child-master/functions.php on line 77

Warning: Use of undefined constant console - assumed 'console' (this will throw an Error in a future version of PHP) in /var/www/html/sdgs/wp-content/themes/wp-bootstrap-starter-child-master/functions.php on line 78

Warning: log() expects parameter 1 to be float, string given in /var/www/html/sdgs/wp-content/themes/wp-bootstrap-starter-child-master/functions.php on line 78

หัวข้อ

รายละเอียด

โครงการ

ชื่องานวิจัย

เขาทองบำรุงสุข มหิดลบำรุงรักษ์

ผู้รับผิดชอบ

นางศศิธร มารัตน์

ที่มาและความสำคัญ

สืบเนื่องจากสถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 19 (Covid- 19) ที่แพร่ระบาดหนักในประเทศจีนเมื่อเดือนธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา และมีการระบาดอีกหลายประเทศทั่วโลกติดต่อกันเป็นระยะเวลายาวนานจนถึงปัจจุบัน และในช่วงเดือนเมษายน  2564 ที่ผ่านมาประเทศไทยพบการระบาดระลอกใหม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมาก รัฐบาลมีนโยบายให้กลุ่มเสี่ยงและผู้ได้รับเชื้อโควิด 19 กลับมารักษายังภูมิลำเนา โดยให้ทุกชุมชนจัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อรองรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงและผู้ได้รับเชื้อโควิด 19 ที่ไม่แสดงอาการกลับมาพักคอยในชุมชนตำบลเขาทอง อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ เป็นอีกหนึ่งชุมชนที่จะต้องจัดตั้งศูนย์พักคอยและขยายศูนย์มาใช้พื้นที่ของวโครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ ด้วยเห็นความสำคัญและห่วงใยต่อสภาพจิตใจและการปฏิบัติตัวของกลุ่มเสี่ยงและผู้ป่วยที่ได้รับเชื่อโควิด 19 ที่ศูนย์พักคอยตำบลเขาทองและศูนยพักคอยกันภัยมหิดล และเพื่อยึดมั่นต่อพันธกิจของ วิทยาเขตนครสวรรค์ ในการมีส่วนร่วมและช่วยเหลือชุมชน

ขอบเขตพื้นที่ศึกษา

1. ศูนย์พักคอย ศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่เขาทอง

2. ศูนย์พักคอยกันภัยมหิดล

วัตถุประสงค์

1 เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับกลุ่มเสี่ยงและผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่อยู่ศูนย์พักคอยของตำบลเขาทอง

2 เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงและผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่อยู่ศูนย์พักคอยของตำบลเขาทองได้ผ่อนคลายลดภาวะความเครียด

3 เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงและผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่อยู่ศูนย์พักคอยของตำบลเขาทองได้มีความรู้ปฏิบัติตัวและดูแลสุขภาพตนเองได้ถูกต้องตามหลักวิชาการ

4เพื่อสนับสนุนพันธกิจของวิทยาเขตด้านงานบริการวิชาการต่อสังคม

ปีที่จัด

2564

ช่วงเวลาที่เกี่ยวข้อง

สิงหาคม  2564 – กันยายน 2564

ระดับความร่วมมือ/ระดับความสำคัญ

ระดับชุมชน ระดับตำบล

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (รายละเอียดเพิ่มเติม)

1. โครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ ม.มหิดล

2.องค์การบริหารส่วนตำบลเขาทอง

3.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาทอง

รูปแบบการดำเนินกิจกรรม

1. ประสานงานกับผู้ดูแลศูนย์พักคอยของตำบลเขาทองเพื่อแจ้งวัตถุประสงค์และรูปแบบการดำเนินกิจกรรม  

2. วางรูปแบบการจัดโครงการ

3. ดำเนินกิจกรรม

     – เป็นการจัดกิจกรรมระหว่างวัน  วันล่ะ ครั้ง 5 ครั้ง/สัปดาห์ 

     – จัดกิจกรรมผ่านกระบวนการจิตตปัญญา

     – ให้สุขศึกษาด้านการปฏิบัติตัวและดูแลตนเองตามหลักวิชาการ

กลุ่มเป้าหมายจากผู้ร่วมกิจกรรม

จำนวนผู้ได้รับเชื้อโควิด–19 ที่ร่วมกิจกรรมทั้ง 2 ศูนย์พักคอย(1.ศูนย์พักคอยกันภัยมหิดลศูนย์พักคอยศาลเจ้าเขาทอง)  รวม 21 คน

 

จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม

ผลลัพธ์ที่นำไปใช้ประโยชน์ต่อ

1. จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด–19 ที่ร่วมกิจกรรมทั้ง 2 ศูนย์พักคอย(1.ศูนย์พักคอยกันภัยมหิดลศูนย์พักคอยศาลเจ้าเขาทอง)  รวม 21 คน

2. ผู้ติดเชื้อที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมได้ระบายความทุกข์/ความโคกเศร้าผ่านการวาดภาพ

3. ส่วนใหญ่จะมีความเครียดและวิตกกังวลสูงในช่วงสัปดาห์แรกเมื่อทราบผลการติดเชื้อ

4. สาเหตุของความเครียดส่วนใหญ่กลัวทำให้ผู้ที่ใกล้ชิดติดเชื้อด้วย ลองลงมาคือเสียงรอบข้างกล่าวโทษทำให้ชุมชนเดือดร้อน

5.สัปดาห์ที่ 2 ผู้ติดเชื้อทุกคนผ่อนคลายและชุมชนให้การยอมรับการกลับสู่ชุมชน

6. ผู้ติดเชื้อปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้อง และออกกำลังกายทุกวันตามที่ได้รับคำแนะนำ

7. หน่วยงานองค์กรภายในชุมชนร่วมมือเอื้อเฟื้อให้ความช่วยเหลือ

8.เกิดความร่วมมือทุกภาคส่วนในชุมชนทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงคนในชุมชน

Web link

รูปภาพประกอบ

 

 

 

 

 

SDGs goal

Goal 3 : Good health and well being
Goal 6 : Clean water and sanitation
Goal 16 : Peace, justice and strong institutions​

 

โครงการบริการวิชาการเพื่อการศึกษาเพื่อถ่ายทอดความรู้และเสริมทักษะด้านการเกษตรแก่นักเรียนโรงเรียนวัดหัวดงเหนือ


Warning: sort() expects at least 1 parameter, 0 given in /var/www/html/sdgs/wp-content/themes/wp-bootstrap-starter-child-master/functions.php on line 77

Warning: Use of undefined constant console - assumed 'console' (this will throw an Error in a future version of PHP) in /var/www/html/sdgs/wp-content/themes/wp-bootstrap-starter-child-master/functions.php on line 78

Warning: log() expects parameter 1 to be float, string given in /var/www/html/sdgs/wp-content/themes/wp-bootstrap-starter-child-master/functions.php on line 78

หัวข้อ

รายละเอียด

ชื่อกิจกรรม/โครงการ

ชื่องานวิจัย/การสำรวจ/ผลการศึกษา

โครงการบริการวิชาการเพื่อการศึกษาเพื่อถ่ายทอดความรู้และเสริมทักษะด้านการเกษตรแก่นักเรียนโรงเรียนวัดหัวดงเหนือ

ที่มาและความสำคัญ

เพื่อเป็นการสร้างความรู้และสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเรียนเกี่ยวกับเรื่องการเกษตรอย่างถูกต้องและยั่งยืน

ขอบเขตพื้นที่ศึกษา

โรงเรียนวัดหัวดงเหนือ อ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์

วัตถุประสงค์

1.เพิ่มพูนความรู้ทางด้านการเกษตร

2.ปลูกฝังการทำการเกษตรที่มีความยั่งยืน

ปี/ ปีที่จัดกิจกรรม

2565

ช่วงเวลาที่เกี่ยวข้อง

7-8 มีนาคม 2565

ระดับความร่วมมือ/ระดับความสำคัญ

มหาวิทยาลัย, หน่วยงานภายนอกมหาวิทยาลัย

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง(รายละเอียดเพิ่มเติม)

 คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์

รูปแบบการดำเนินกิจกรรม

อบรมวิชาการเบื้องต้น และฝึกปฏิบัติจริง

กลุ่มเป้าหมายจากผู้ร่วมกิจกรรม

นักเรียนโรงเรียนวัดหัวดงเหนือ และคณะครู

จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม

50 ท่าน

ผลลัพธ์ที่นำไปใช้ประโยชน์ต่อ

1 นักเรียนนำความรู้ไปใช้ในการปลูกพืชที่มีความปลอดภัยในโรงเรียนและที่บ้าน

2 มีความรักในการประกอบอาชีพทางการเกษตรบนพื้นฐานทรัพยากรของชุมชน

Web link

 

รูปภาพประกอบ

SDG goal

1 2 3

SDGs goal Goal 1 : No poverty​
Goal 2 : Zero hunger
Goal 3 : Good health and well being

 

กิจกรรมสร้างเครือข่ายผู้ผลิตข้าวอินทรีย์มหิดล


Warning: sort() expects at least 1 parameter, 0 given in /var/www/html/sdgs/wp-content/themes/wp-bootstrap-starter-child-master/functions.php on line 77

Warning: Use of undefined constant console - assumed 'console' (this will throw an Error in a future version of PHP) in /var/www/html/sdgs/wp-content/themes/wp-bootstrap-starter-child-master/functions.php on line 78

Warning: log() expects parameter 1 to be float, string given in /var/www/html/sdgs/wp-content/themes/wp-bootstrap-starter-child-master/functions.php on line 78

หัวข้อ รายละเอียด
ชื่อกิจกรรม/โครงการ
ชื่องานวิจัย/การสำรวจ/ผลการศึกษา
กิจกรรมสร้างเครือข่ายผู้ผลิตข้าวอินทรีย์มหิดล
ผู้รับผิดชอบกิจกรรม/โครงการ ผศ.นิวัต  อุณฑพันธุ์
ที่มาและความสำคัญ

      เกิดจากศูนย์วิจัยและบริการวิชาการบึงบอระเพ็ด มหิดลนครสวรรค์ ได้เห็นปัญหาความมั่นใจของผู้บริโภคในการตัดสินใจเลือกซื้อข้าวอินทรีย์  และปัญหาการเข้าถึงมาตรฐานของชาวนาอินทรีย์เพื่อการรับรองการผลิต  ทางศูนย์ฯจึงได้เขียนโครงการเพื่อเสนอของบประมาณมาเพื่อดำเนินงานแก้ปัญหา  และในปีงบประมาณ 2559 และได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ให้ดำเนินการขับเคลื่อนโครงการ สร้างเครือข่ายผู้ผลิตข้าวอินทรีย์ กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 (พิจิตร ,กำแพงเพชร,นครสวรรค์ และอุทัยธานี) โดยในโครงการได้มีการสร้างเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เครือข่ายผู้บริโภคข้าวอินทรีย์ และเครือข่ายหน่วยงานผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง  ได้มาระดมความคิดเห็นในการแก้ปัญหา  จนได้ข้อสรุปในการจัดทำมาตรฐาน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติเดียวกัน  โดยในกระบวนการสร้างมาตรฐานได้อิงจากมาตรฐานที่มีใช้อยู่ในปัจจุบัน  เกิดเป็น “มาตรฐานข้าวอินทรีย์ มหิดล”จากการร่วมกันคิด ร่วมกันสร้างมาตรฐานการปลูกข้าวอินทรีย์ และส่งผลให้เกิด  “มาตรฐานข้าวอินทรีย์ มหิดล” เกษตรกรได้ยึดเป็นแนวทางปฏิบัติ  ส่งผลให้ผลผลิตของเครือข่ายมีมาตรฐานเดียวกัน  และสามามารถทำการตลาดได้ง่ายขึ้น คลายความกังวลใจ  ลดข้อสงสัย  และเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี  และส่งผลให้ผลผลิตของเครือข่ายจำหน่ายหมดในเวลาอันรวดเร็ว  และไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดในระยะยาว  เครือข่ายสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการจะได้เรียนรู้ร่วมกันในการบริหารจัดการกลุ่มของตนเอง

ขอบเขตพื้นที่ศึกษา

พิจิตร, กำแพงเพชร, นครสวรรค์, อุทัยธานี

วัตถุประสงค์

1.สร้างเครือข่ายผู้ผลิตข้าวอินทรีย์ ให้เกิดกลุ่มที่เข้มแข็งและมีมาตรฐาน

2.สร้างนวัตกรรม และองค์ความรู้ใหม่เกี่ยวกับการทำนาอินทรีย์ เพื่อนำมาพัฒนาการทำนาแบบอินทรีย์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

3.สร้างผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐาน มีคุณภาพน่าเชื่อถือ ออกสู่ตลาดและกลุ่มผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ง่าย

4.สร้างองค์ความรู้เรื่องใช้สารชีวินทรีย์และสมุนไพรที่ใช้ในการทำนาอินทรีย์ที่ได้ผลดี และรวบรวมเก็บเป็นข้อมูลเพื่อนำไปถ่ายทอด

5.เพื่อให้เกษตรกรที่ทำข้าวอินทรีย์สามารถเข้าถึงมาตรฐานที่สามารถทำได้ และเกษตรกรสามารถเชื่อมโยงผลผลิตข้าวไปต่อยอดทางการตลาดร่วมกันได้ โดยเกษตรกรจะสามารถพัฒนาตัวเองเป็นผู้ประกอบการในอนาคตได้

ปีที่จัดกิจกรรม/โครงการ 2559-ปัจจุบัน
ช่วงเวลาที่เกี่ยวข้อง 5 ปี
ระดับความร่วมมือ/ระดับความสำคัญ ชุมชน, หน่วยงาน, จังหวัด
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง(รายละเอียดเพิ่มเติม)

มหาวิทยาลัยมหิดล

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)

เครือข่ายเกษตรกรจังหวัด พิจิตร, กำแพงเพชร, นครสวรรค์, อุทัยธานี

สภาเกษตร

สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพิจิตร, กำแพงเพชร, นครสวรรค์, อุทัยธานี

ศูนย์เรียนรู้เครือข่าย 10 แห่ง

เครือข่ายผู้บริโภคข้าวอินทรีย์

รูปแบบการดำเนินกิจกรรม การวางแผนปลูก  การขึ้นทะเบียนสมาชิกก่อนเริ่มฤดูกาลปลูกจะต้องมีการแจ้งปลูก  และมีการแบ่งทีมตรวจแปลงกันภายในกลุ่ม  การตรวจข้ามกลุ่ม  รวมทั้งการเรียนรู้แนวทางวิธีการการป้องกัน กำจัด โรค แมลงศัตรู  โดยชีววิธีร่วมด้วย  โดยตลอดกระบวนการเพาะปลูกข้าวจะต้องทำตามข้อกำหนดที่ตกลงร่วมกันตามมาตรฐานเท่านั้น  หากไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกลุ่มจะไม่รับรองให้ผ่านกระบวนการปลูก  แต่ถ้าท่านใดปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ตกลงร่วมกันไว้ได้ทุกเรื่องจะได้ผ่านการรับรองกระบวนการปลูกจากทางกลุ่ม  ผู้ผ่านกระบวนการปลูกสามารถส่งผลผลิตเข้าตรวจสารกำจัดแมลงที่ห้องแลปของวิทยาเขตนครสวรรค์  มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อเป็นการทดสอบสารฆ่าแมลงในเมล็ดข้าว กลุ่มออร์การ์โนคลอรีน(OC)  ไพเรทรอยด์(PT)  ออร์การ์โนฟอสเฟส (OP) และคาร์บาเมท (CM)  โดยวิธีเทคนิค Thin–layer Chromatography   ด้วยชุดตรวจหาสารเคมีกำจัดแมลง GPO-TM/1และGPO-TM/2
กลุ่มเป้าหมายจากผู้ร่วมกิจกรรม

เครือข่ายเกษตรกรจังหวัดพิจิตร, กำแพงเพชร, นครสวรรค์, อุทัยธานี

จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม

มีผู้สนใจเข้าร่วม เครือข่าย ทั้งหมด344 ราย มาจากรายเดี่ยว(ไม่มีกลุ่ม) 15 ราย และมาจาก 34 กลุ่ม ซึ่งสามารถแยกเป็นรายจังหวัดได้ดังนี้คือ มาจากจังหวัดพิจิตร 12 กลุ่ม จำนวน 157 ราย  จากจังหวัดกำแพงเพชร 22 กลุ่ม  81 ราย  สจากจังหวัดนครสวรรค์ 14 กลุ่ม 59 ราย  และจากจังหวัดอุทัยธานี  10 กลุ่ม  47 ราย

ผลลัพธ์ที่นำไปใช้ประโยชน์ต่อ

1.เกิดเครือข่ายผู้ผลิตข้าวอินทรีย์ต้นแบบ ที่เข้มแข็ง โดยการขับเคลื่อนแบบมีส่วนร่วม ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง 2  จำนวน 1 เครือข่าย จำนวนสมาชิก  344 ราย มีพื้นที่การทำนาอินทรีย์รวมประมาณ 3,500  ไร่

2.เกิดการบูรณาการและพัฒนาการบริการวิชาการ นำไปสู่การสร้างองค์ความรู้ และสามารถยกระดับสู่การขอรับรองอนุสิทธิบัตร (   ข้อมูลลิขสิทธิ์  เลขที่ 378760 รับรองเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2562)

3.สร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กับเกษตรกรผู้ผลิตข้าวอินทรีย์ เฉลี่ยรายละไม่น้อยกว่า  35,000 บาท ต่อปี

4.เกษตรกรที่เข้าร่วมสามารถลดต้นทุนการผลิตได้รอบละ ไม่น้อยกว่า 1,500 – 2,000 บาทต่อไร่ หรือ ประมาณ 3,000 – 4,000 บาท ต่อปี (คิดจากการทำนาปีละ 2 รอบ)

Web link
รูปภาพประกอบ
SDGs goal Goal 1 : No poverty​
Goal 2 : Zero hunger
Goal 3 : Good health and well being
Goal 4 : Quality education
Goal 8 : Decent work and economic growth
Goal 12 : Responsible consumption and production​
Goal 15 : Life on land

 

มาตรฐาน MU Organic


Warning: sort() expects at least 1 parameter, 0 given in /var/www/html/sdgs/wp-content/themes/wp-bootstrap-starter-child-master/functions.php on line 77

Warning: Use of undefined constant console - assumed 'console' (this will throw an Error in a future version of PHP) in /var/www/html/sdgs/wp-content/themes/wp-bootstrap-starter-child-master/functions.php on line 78

Warning: log() expects parameter 1 to be float, string given in /var/www/html/sdgs/wp-content/themes/wp-bootstrap-starter-child-master/functions.php on line 78

หัวข้อ รายละเอียด
ชื่อกิจกรรม/โครงการ
ชื่องานวิจัย/การสำรวจ/ผลการศึกษา
มาตรฐาน MU Organic
ผู้รับผิดชอบกิจกรรม/โครงการ ผศ.นิวัต  อุณฑพันธุ์,
ดร.ณพล อนุตตตรังกูร ,นางสาวพินณารักษ์ พันธุมาศ ,นายธนากร
จันหมะกสิต,นางชุติภากาญจน์ ประจันทร์,นางสาวศิริยาภรณ์ ศิรินนทร์ และนายยุทธิชัย
โฮ้ไทย
ที่มาและความสำคัญ

       สืบเนื่องจากผลของการสร้างเครือข่ายผู้ผลิตข้าวอินทรีย์ในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 ในช่วงปี 2559 และทำให้เกิดมาตรฐานข้าวอินทรีย์มหิดล ที่เกิดจากการร่วมคิด ระหว่างชาวนาผู้ปลูกข้าว ผู้บริโภค และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง จนได้ข้อสรุปในการจัดทำมาตรฐาน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติเดียวกัน เพื่อแก้ปัญหาการเข้าถึงมาตรฐานของชาวนาอินทรีย์เพื่อการรับรองการผลิต และแก้ปัญหาความไม่มั่นใจของผู้บริโภคในการตัดสินใจเลือกซื้อข้าวอินทรีย์ ส่งผลให้ผลผลิตของเครือข่ายมีมาตรฐานเดียวกัน  และสามามารถทำการตลาดได้ง่ายขึ้น คลายความกังวลใจ  ลดข้อสงสัย  และเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี  ผลผลิตของเครือข่ายจำหน่ายหมดในเวลาอันรวดเร็ว  และไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดในระยะยาว  เครือข่ายสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการจะได้เรียนรู้ร่วมกันในการบริหารจัดการกลุ่มของตนเอง จากแนวทางการสร้างและพัฒนาเครือข่ายดังกล่าว ส่งผลให้เกิดเครือข่ายที่เข้มแข็งตามมา  และเครือข่ายได้มีการวางแนวทางการพัฒนาเครือข่าย มีการจัดประชุมเพื่อทบทวนเป้าหมายการพัฒนาของเครือข่าย ในปี 2562 โดยเครือข่ายได้เสนอแนะแนวทางการยกระดับมาตรฐานข้าวอินทรีย์มหิดล เป็น มาตรฐาน MU Organic เพื่อให้เกิดการรับรองการผลิตที่ครอบคลุม และหลากหลายชนิดพืช เพิ่มขึ้น เพราะเนื่องจากสมาชิกเครือข่าย ไม่ได้ผลิตข้าวเพียงอย่างเดียว แต่ได้มีการปลูกผัก และผลไม้เพิ่มขึ้นมาและจำหน่ายทำตลาดควบคู่กับข้าวอินทรีย์  และได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดผู้บริโภค

ขอบเขตพื้นที่ศึกษา

ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน

วัตถุประสงค์

1.สร้างและยกระดับมาตรฐานการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่ครอบคลุมหลากหลาย มีมาตรฐานและผู้ผลิตสามารถเข้าถึงได้ง่าย

2.สร้างกระบวนการ วิธีการ และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอย่างง่าย ในการรับสมัคร และการตรวจประเมินการปฏิบัติในแปลง แบบออนไลน์

3. สร้างผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐาน มีคุณภาพน่าเชื่อถือ ออกสู่ตลาดและกลุ่มผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ง่าย

ปีที่จัดกิจกรรม/โครงการ 2562-ปัจจุบัน
ช่วงเวลาที่เกี่ยวข้อง 4 ปี
ระดับความร่วมมือ/ระดับความสำคัญ เครือข่าย, ชุมชน, หน่วยงาน, จังหวัด, กลุ่มจังหวัด
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง(รายละเอียดเพิ่มเติม)

มหาวิทยาลัยมหิดล

เครือข่ายเกษตรกรผู้ผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน

สภาเกษตรกร

สำนักงานเกษตรและสหกรณ์

ศูนย์เรียนรู้เครือข่าย 10 แห่ง

เครือข่ายผู้บริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนขนาดกลาง และขนาดย่อม (สสว.)

รูปแบบการดำเนินกิจกรรม

1.รับสมัครผู้ที่สนใจเข้าร่วมมาตรฐาน ผ่านระบบออนไลน์ โดยการกรอกข้อมูลผ่าน Google Form

2.คัดกรอง ประเมิน ผู้สมัคร และคัดเลือก

3.ทำความเข้าใจ ให้คำแนะนำ อธิบาย แนวทางข้อปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ กับผู้ที่ผ่านการคัดเลือกให้เข้าร่วมมาตรฐาน

4.จัดทำ QR Code ประจำแปลงผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือก

5.จัดผังการตรวจประเมินในระดับเครือข่าย และอบรมให้ความรู้วิธีการตรวจประเมิน

6.เครือข่ายตรวจประเมินการปฏิบัติในแปลง ตามผังที่วางไว้

7.ทีมประเมินกลางสุ่มตรวจประเมินการปฏิบัติในแปลง

8.ผู้ตรวจประเมินในระดับเครือข่ายจัดเก็บผลผลิต ของสมาชิกที่ผ่านการปฏิบัติในระดับแปลง เพื่อนำผลผลิตส่งตรวจในห้องแลป     ของโครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์  มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อตรวจหาสารฆ่าแมลงในผลผลิต กลุ่มออร์การ์โนคลอรีน(OC)  ไพเรทรอยด์(PT)  ออร์การ์โนฟอสเฟส (OP) และคาร์บาเมท (CM)  โดยวิธีเทคนิค Thin–layer Chromatography   ด้วยชุดตรวจหาสารเคมีกำจัดแมลง GPO-TM/1และGPO-TM/2  และตรวจหาสารกำจัดวัชพืช กลุ่มพาราควอท   ด้วยวิธีการ Spectrophotometry  ผู้ที่ผ่านกระบวนการปฏิบัติในระดับแปลง และผลผลิตที่ส่งตรวจในแลป ไม่พบสารตกค้าง จะได้รับมาตรฐาน “MU Organic”

9.สุ่มตรวจแปลง พื้นที่ ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน หลังจากที่ได้รับมาตรฐานแล้ว เพื่อ React Credit

กลุ่มเป้าหมายจากผู้ร่วมกิจกรรม

เครือข่ายเกษตรกรผู้ผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน

จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม ผู้สมัคร 81 ราย จาก 8 จังหวัด  
ผลลัพธ์ที่นำไปใช้ประโยชน์ต่อ

1.เป็นต้นแบบในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอย่างง่าย ในการตรวจรับรองมาตรฐาน

2.เป็นต้นแบบการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ร่วมกับการบูรณาการข้ามศาสตร์ ในการให้บริการและพัฒนาชุมชน

3.เกิดเครือข่ายและการรวมกลุ่มยกระดับการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ ประเภท ข้าว ผัก และผลไม้ ในภูมิภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน ที่มีมาตรฐาน 81 ราย และมีพื้นที่การทำเกษตรอินทรีย์ประมาณ 717 ไร่

4.เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการและสามารถปฏิบัติได้ตามมาตรฐาน สามารถยกระดับการผลิตของตนเอง และสามรถนำผลผลิตไปจำหน่ายในตลาดระดับที่สูงขึ้น และมีตลาดที่รับซื้ออย่างต่อเนื่อง

5.สร้างความเชื่อมั่น และความน่าเชื่อถือให้กับผู้บริโภคกลุ่มรักสุขภาพได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ผลผลิตที่ผ่านมาตรฐานมีมูลค่าที่สูงขึ้น

Web link
รูปภาพประกอบ
   
SDGs goal Goal 1 : No poverty​
Goal 2 : Zero hunger
Goal 3 : Good health and well being
Goal 4 : Quality education
Goal 8 : Decent work and economic growth
Goal 12 : Responsible consumption and production​
Goal 15 : Life on land