การพัฒนาโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่สู่มาตรฐาน GFM: ยกระดับคุณภาพไข่และระบบการผลิตสู่ความยั่งยืน

MU-SDGs Case Study*

การพัฒนาโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่สู่มาตรฐาน GFM: ยกระดับคุณภาพไข่และระบบการผลิตสู่ความยั่งยืน

ผู้ดำเนินการหลัก*

นายธนากร จันหมะกสิต

ส่วนงานหลัก

ศูนย์วิจัยและบริการวิชาการโครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ผู้ดำเนินการร่วม

1. นายสันติ สะสีแสง
2. นายสาธิต จันทร์เขียว
3. นายสุชาติ แท่นกระโทก
4. นางรัชนี คุ้มบัว
5. นางสาวชุติภากาญจน์ ประจันทร์
6. ผศ.ดร. ปัณฑารีย์ แต้ประยูร

ส่วนงานร่วม

1. งานกายภาพและสิ่งแวดล้อม
2. งานอำนวยการกลาง
3. หน่วยวิจัยการใช้ประโยชน์ทางการเกษตรและสิ่งแวดล้อม

เนื้อหา*

โครงการวิจัยและพัฒนาโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่นี้มีจุดเริ่มจากปัญหาโรงเรือนเดิมที่สร้างจากไม้ ปูน และสังกะสี ซึ่งเสื่อมสภาพ ถูกปลวก หนู และสุนัขจรจัดทำลาย ระบายอากาศไม่ดี อุณหภูมิสูงถึง 35–38 °C ในฤดูร้อนและชื้นในฤดูฝน ทำให้ไก่เครียด มีปัญหาสุขภาพ และผลผลิตต่ำกว่ามาตรฐาน ขาดมาตรการสุขาภิบาลและ Biosecurity ที่เข้มงวด ทีมงานจึงดำเนินการพัฒนาโรงเรือนใหม่ โดยใช้แนวทางตามมาตรฐานสินค้าเกษตร มกษ. 6909(G)-2562 (GAP ฟาร์มไก่ไข่) และมาตรฐาน Good Farm Management (GFM) ของกรมปศุสัตว์ ใช้กระบวนการ PDCA (Plan–Do–Check–Act) ในการปรับปรุงโครงสร้าง ออกแบบระบบระบายอากาศ แสงสว่าง การให้อาหารและน้ำอัตโนมัติ รวมถึงการจัดการมูลสัตว์เพื่อลดกลิ่นและแมลง

ผลการดำเนินงาน
• ภายใน 60 วันแรก โรงเรือนใหม่ให้ผลผลิตไข่รวม 5,202 ฟอง มากกว่าโรงเรือนเก่า (4,900 ฟอง)
• สัดส่วนไข่เบอร์มาตรฐาน (เบอร์ 0–3) เพิ่มขึ้นจาก 51.8% เป็น 59.7% ของผลผลิตทั้งหมด
• ลดสัดส่วนไข่เบอร์เล็ก (เบอร์ 5) ลงกว่า 34%
• สามารถควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในเกณฑ์ 25–30 °C และลดกลิ่น/แมลงรบกวนได้กว่า 50%
• โรงเรือนใหม่ป้องกันสัตว์พาหะได้อย่างมีประสิทธิภาพ และผ่านการรับรองมาตรฐาน GFM ในปีแรก

ประโยชน์
• ยกระดับคุณภาพผลผลิตไข่ไก่ เพิ่มความปลอดภัยทางอาหาร
• เป็นต้นแบบการเรียนการสอนและวิจัยด้านการจัดการฟาร์มมาตรฐาน
• ขยายผลสู่ชุมชนและเกษตรกรรายย่อย สามารถนำแบบอย่างไปปรับใช้จริง
• ลดความเสี่ยงสิ่งแวดล้อมจากกลิ่น มูลสัตว์ และการปนเปื้อน

SDGs หลักที่สอดคล้องกับกิจกรรม*

SDGs2

เป้าประสงค์ย่อยใน SDG หลัก*

2.3, 2.4

SDGs อื่น ๆ ที่สอดคล้อง

SDGs3,12,7,13

เป้าประสงค์ย่อยใน SDG อื่นๆ

3.9, 12.4, 12.5, 7.2, 13.2
Links ข้อมูลเพิ่มเติม * 
https://www.facebook.com/share/p/1724u7uNap/
https://www.facebook.com/share/p/1ATCjvR6Q6/
 

MU-SDGs Strategy*

ยุทธศาสตร์ที่ 2,4

Partners/Stakeholders*

1. ศูนย์วิจัยและบริการวิชาการ ม.มหิดล วิทยาเขตนครสวรรค์
2. งานกายภาพและสิ่งแวดล้อม, งานอำนวยการกลาง, งานวิชาการและหลักสูตร, หน่วยวิจัยการใช้ประโยชน์ทางการเกษตรและสิ่งแวดล้อม
3. กรมปศุสัตว์ (ผู้ตรวจประเมินมาตรฐาน GFM)
4. เกษตรกรและผู้สนใจที่เข้าร่วมศึกษาดูงาน

ภาพประกอบ (3-5 ภาพ)*

Key Message*

“ยกระดับฟาร์มไก่ไข่สู่มาตรฐาน GFM”
“เพิ่มคุณภาพไข่ สร้างความมั่นคงทางอาหารและสุขภาพ”
“ต้นแบบการเรียนรู้และการผลิตที่ยั่งยืนของมหิดล”

ตัวชี้วัด THE Impact* Rankings ที่สอดคล้อง

2.3.1, 2.4.1, 3.9.1, 12.4.1, 12.5.1, 7.2.1

พลังงานทดแทน : รถลากจูงพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับจ่ายกระแสไฟฟ้าและสูบน้ำ (อนุสิทธิบัตรเลขที่ 22801)

MU-SDGs Case Study*

พลังงานทดแทน : รถลากจูงพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับจ่ายกระแสไฟฟ้าและสูบน้ำ (อนุสิทธิบัตรเลขที่ 22801)

ผู้ดำเนินการหลัก*

นายธนากร จันหมะกสิต

ส่วนงานหลัก*

โครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์

ผู้ดำเนินการร่วม

อ.ดร. ปัณฑารีย์ แต้ประยูร
นายสรรเสริญ แต้ประยูร

ส่วนงานร่วม

หน่วยวิจัยการใช้ประโยชน์ทางการเกษตรและสิ่งแวดล้อม โครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยมหิดล

เนื้อหา*

ในภาคการเกษตรต้นทุนด้านพลังงานทั้งไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิง ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยการผลิตที่มีความจำเป็นและมีราคาสูง อีกทั้งประเทศไทยมีการนำเข้าพลังงานดังกล่าวจากต่างประเทศเป็นหลัก จึงส่งผลให้เกษตรกรต้องแบกรับภาระความเสี่ยงในการขาดแคลนพลังงาน และการขาดทุน ดังนั้น พลังงานแสงอาทิตย์จึงเป็นพลังงานทดแทน ที่จะช่วยเพิ่มความยั่งยืนด้านพลังงานให้แก่เกษตรกร ซึ่งในปัจจุบันโซล่าเซลล์ ได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในภาคการเกษตรอย่างหลากหลาย โดยเฉพาะกิจกรรมที่เน้นทำในช่วงเวลากลางวันที่มีแสงแดด ได้แก่ ระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งระบบผลิตกระแสไฟ้ฟ้าจากแสงอาทิตย์จะประกอบด้วย 2 ส่วน หลัก คือ 1) ส่วนของระบบผลิตไฟฟ้าสูบน้ำ และ 2) ส่วนของโครงสร้างรองรับแผ่นโซล่าเซลล์ โดยส่วนของโครงสร้างรองรับแผ่นโซล่าเซลล์มี 2 แบบ คือ แบบติดตั้งถาวร และแบบเคลื่อนย้ายได้ แบบที่ติดตั้งถาวรจะเหมาะกับพื้นที่แปลงเกษตรขนาดใหญ่ และต้องมีการดูแลใกล้ชิด เพราะอาจสูญหายได้หากสร้างไว้ในที่ห่างไกลคนดูแล ดังนั้นจึงมีการพัฒนาชุดรองรับแผ่นโซล่าเซลล์ที่เป็นแบบเคลื่อนย้ายได้และได้รับความนิยมสูง เนื่องจากใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องของขนาด ถ้ามีขนาดที่ใหญ่เกินไปก็ทำให้เคลื่อนย้ายยาก หรือ ถ้าเล็กเกินไปก็จะส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง

ด้วยเหตุนี้เอง จึงเป็นที่มาของ “รถลากจูงพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับจ่ายกระแสไฟฟ้าและสูบน้ำ” ที่สามารถเข็นและลากจูงได้ มีขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป มีความคล่องตัว จึงสามารถใช้งานได้หลากหลาย ทั้งในแปลงเกษตรหรือพื้นที่ที่มีขนาดเล็กเส้นทางคับแคบ ใช้สูบน้ำและกักเก็บพลังงานไฟฟ้าไว้ใช้ในยามค่ำคืน หรือในสถานที่ๆไฟฟ้าเข้าไม่ถึง อีกทั้งยังมีชุดรองรับแผ่นโซล่าเซลล์เพิ่มความแข็งแรงให้กับแผ่นโซล่าเซลล์และสามารถพับเก็บ ทำให้สะดวกและปลอดภัยในการเคลื่อนย้าย มีขาสำหรับค้ำยันทั้ง 4 มุมของตัวรถ เพื่อเพิ่มความมั่นคงขณะใช้งาน ซึ่งเป็นข้อแตกต่างจากรถสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ทั่วไป

รถลากจูงพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับจ่ายกระแสไฟฟ้าและสูบน้ำ มีศักยภาพที่จะผลิตในเชิงพาณิชย์ เนื่องจากการผลิตที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ความหลากหลายในการใช้งานสูง มีความคล่องตัวในการเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่ต่าง ๆ และมีความปลอดภัยขณะใช้งาน มีการบำรุงรักษาที่ง่าย และมีความแข็งแรงทนทาน รถลากจูงพลังงานแสงอาทิตย์เป็นรูปแบบที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อมาใช้ในงาน ในสถานที่ต่างๆ ที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึงหรือในแหล่งที่ห่างไกลจากเส้นทางการขนส่ง การเคลื่อนย้ายรถลากจูงฯ ไปในที่ต่างๆทำได้ง่ายคล่องตัว สามารถใช้ คน รถจักรยานยนต์ รถยนต์ หรือรถใช้งานทางด้านการเกษตรชนิดต่าง ๆ เป็นตัวลากจูง สามารถใช้งานได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการใช้ใน งานไร่ นา สวน หรือ เพื่อสูบน้ำใช้ในพื้นที่ๆ ต้องการ ไฟฟ้าที่ผลิตได้สามารถนำไปใช้ในครัวเรือนหรืองานอื่นๆที่ต้องการ โครงสร้างมีความคงทน มั่นคง และแข็งแรง ใช้วัสดุและอุปกรณ์ที่สามารถหาได้ทั่วไป ทำให้ใช้ต้นทุนในการผลิตที่ต่ำหากผลิตในเชิงพาณิชย์ อีกทั้งระบบในการควบคุมการใช้งานก็ง่ายไม่ซับซ้อน การบำรุงรักษาน้อยค่าใช้จ่ายไม่สูง และอายุการใช้งานยาวนานหากใช้ถูกต้องตามวิธีการ

SDGs หลักที่สอดคล้องกับกิจกรรม*

SDGs7

เป้าประสงค์ย่อยใน SDG หลัก*

7.1,7.2

SDGs อื่น ๆ ที่สอดคล้อง

SDGs2

เป้าประสงค์ย่อยใน SDG อื่นๆ

2.3

Links ข้อมูลเพิ่มเติม *https://search.ipthailand.go.th/index2?q=JTdCJTIycSUyMiUzQSUyMjIyODAxJTIyJTJDJTIyaW5kZXglMjIlM0ElMjJkaXBfc2
VhcmNoXzFfZXB0XzMlMjIlMkMlMjJkaXNwbGF5JTIyJTNBJTIyZGlwX3NlYXJjaF8xX2VwdF8zJTIyJTJDJTIyaW5kZXhfY3
JlYXRlJTIyJTNBJTIyZGlwX3NlYXJjaF8xX2VwdF8zJTIyJTJDJTIyaW4lMjIlM0ExJTJDJTIyb3JkZXIlMjIlM0ElMjJfc2Nvcm
UlMkNkZXNjJTIyJTJDJTIydHlwZSUyMiUzQSUyMnNlYXJjaF9hbGwlMjIlMkMlMjJ0eXBlX25hbWUlMjIlM0ElMjIlRTAlQjg
lQUQlRTAlQjglOTklRTAlQjglQjglRTAlQjglQUElRTAlQjglQjQlRTAlQjglOTclRTAlQjglOTglRTAlQjglQjQlRTAlQjglOUElRTAlQ
jglQjElRTAlQjglOTUlRTAlQjglQTMlMjIlMkMlMjJ0YWJfaW5kZXglMjIlM0ElMjJkaXBfc2VhcmNoXzFfZXB0XzMlMjIlN0Q%3D
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=815063667297671&set=a.477621531041888&type=3&locale=th_
TH&paipv=0&eav=AfbzSzKGjWDPNvGE-RaeI5zMi5xLkfakMxlQ4Vrygagd4KLT7I31Sh5K498FjktI0qc&_rdr
 

MU-SDGs Strategy*

ยุทธศาสตร์ที่ 2

Partners/Stakeholders*

หน่วยวิจัยการใช้ประโยชน์ทางการเกษตรและสิ่งแวดล้อม
โครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ภาพประกอบ (3-5 ภาพ)*

Key Message*

พื้นที่การเกษตรในประเทศไทยหลายพื้นที่ ระบบสายส่งไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึงทำให้เกษตรกรมีความยากลำบากในการประกอบอาชีพ โดยเฉพาะการสูบน้ำเข้าแปลงนา ใช้รถน้ำต้นไม้ การให้แสงสว่าง และการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ รถลากจูงพลังงานแสงอาทิตย์ สำหรับจ่ายกระแสไฟฟ้า และสูบน้ำ โครงสร้างตัวรถซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่มาก เมื่อเกษตรกรต้องการนำรถดังกล่าวไปสูบน้ำในแปลงนา หรือในพื้นที่สวน ที่มีคันนา หรือทางเดินที่คับแคบ ก็สามารถที่จะนำรถลากจูงดังกล่าวเข้าไปในจุดที่ต้องการได้สะดวก สามารถใช้คน รถจักรยานยนต์ รถยนต์ รถไถ รถไถนาแบบเดินตาม ในการลากจูงรถเข้าไปในพื้นที่ได้ เพียงแต่ต้องมีการติดตั้งชุดลากจูงเข้ากับตัวโครงสร้างตัวรถ ส่วนการใช้แรงงานคนก็สามารถดันรถลากจูงฯให้เคลื่อนที่ได้ง่ายจากการที่ ตัวรถลากจูงฯ ติดตั้งมือจับไว้ในส่วนท้ายตัวรถ เมื่อนำรถลากจูงฯไปถึงจุดที่ต้องการสูบน้ำ หรือจุดที่ต้องการใช้กระแสไฟฟ้า ตัวรถลากจูงฯนี้ยังมีจุดเด่น คือ ยังมีขาค้ำยันทั้ง 4 มุม ยึดติดกับโครงสร้าง เพื่อใช้ในการป้องกันการผลิกคว่ำขณะชุดแผงรองรับแผ่นโซล่าเซลล์ถูกกางออกเติมที่ และถึงแม้กระทั้งมีลมแรงพัดมาปะทะกับแผงโซล่าเซลล์โดยตรง ตัวค้ำยันยังป้องกันการพลิกคว่ำหรือการเคลื่อนที่ได้อย่างมั่นคงแข็งแรง

ตัวชี้วัด THE Impact* Rankings ที่สอดคล้อง

7.2.4, 7.4.1