โครงการส่งเสริมการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส COVID-19 เชิงรุก

MU-SDGs Case Study*

โครงการส่งเสริมการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส COVID-19 เชิงรุก

ผู้ดำเนินการหลัก*

นายธาดา คณาภรณ์ทิพย์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน

ส่วนงานหลัก*

หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน โครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ผู้ดำเนินการร่วม

คณาจารย์หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน

ส่วนงานร่วม

เนื้อหา*

จากการศึกษาปัญหาสุขภาพชุมชน พบว่า คนในชุมชนนั้นยังไม่มีความมั่นใจในการมาฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เนื่องจากยังขาดความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับวัคซีน และอาการข้างเคียงของการฉีดวัคซีน รวมไปถึงการมีเจตคติทางด้านลบต่อการฉีดวัคซีนดังกล่าว ซึ่งการไม่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 นั้นย่อมส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อร่างกาย จิตใจ และเศรษฐกิจตามมา

 

ดังนั้น นายธาดา คณาภรณ์ทิพย์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน โครงการจัดตั้งมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตนครสวรรค์ ร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลโพสะ ผู้นำชุมชน และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ได้ดำเนินโครงการ “ส่งเสริมการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส COVID-19 เชิงรุก” ณ ชุมชนบ้านวัดนก ต.โพสะ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง ระหว่างวันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2564 – วันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2565 ซึ่งทางนักศึกษาได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาสุขภาพดังกล่าวด้วยการใช้เครื่องมือและวิธีการต่าง ๆ ที่นักศึกษาได้ออกแบบเองโดยร่วมมือกับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ในการสร้างเสริมความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับวัคซีนและอาการข้างเคียงของการฉีดวัคซีนให้แก่คนในชุมชนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ผ่านการบรรยาย อีกทั้งยังสร้างเสริมให้คนในชุมชนมีเจตคติที่ดีต่อการฉีดวัคซีนดังกล่าวผ่านการพูดคุยกับคนในชุมชนอย่างเป็นกันเองจนทำให้คนในชุมชนมีแนวโน้มในการรับวัคซีนเพิ่มมากขึ้น

 

ทั้งนี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความอนุเคราะห์ในการดำเนินโครงการและจะนำโครงการของนักศึกษาไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานในอนาคตเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน(Sustainable Development Goals: SDGs) สืบต่อไปในอนาคต 

SDGs หลักที่สอดคล้องกับกิจกรรม*

SDGs 3

เป้าประสงค์ย่อยใน SDG หลัก*

3.8

SDGs อื่น ๆ ที่สอดคล้อง

เป้าประสงค์ย่อยใน SDG อื่นๆ

Links ข้อมูลเพิ่มเติม *

https://www.facebook.com/402782096876991/posts/1291887111299814/?d=n

โปรดแนบลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

โปรดแนบลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

MU-SDGs Strategy*

ยุทธศาสตร์ที่ 3

Partners/Stakeholders*

1. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลโพสะ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง

2. ผู้นำชุมชนบ้านวัดนก ตําบลโพสะ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง

3. อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ชุมชนบ้านวัดนก ต.โพสะ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง

ภาพประกอบ (3-5 ภาพ)*

 

Key Message*

การเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนด้วยการร่วมมือร่วมใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนในการให้ความรู้ และเจตคติที่ดีเกี่ยวกับวัคซีนเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

ตัวชี้วัด THE Impact* Rankings ที่สอดคล้อง

3.3.1, 3.3.2

โครงการสร้างภูมิ เสริมพลัง ต้านภัยโควิด

MU-SDGs Case Study*

โครงการสร้างภูมิ เสริมพลัง ต้านภัยโควิด

ผู้ดำเนินการหลัก*

นางสาวสาธิดา ต๊ะคีรี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน

ส่วนงานหลัก*

หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน โครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ผู้ดำเนินการร่วม

คณาจารย์หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน

ส่วนงานร่วม

เนื้อหา*

จากการศึกษาปัญหาสุขภาพชุมชน พบว่า ปัญหาการไม่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นปัญหาอันดับที่ 1 โดยสาเหตุของปัญหามาจากการไม่ได้รับการสนับสนุนจากบุคลากรสาธารณสุขอย่างเพียงพอ รวมไปถึงการไม่รับรู้ความรุนแรงและโอกาสเสี่ยงของการไม่ฉีดวัคซีน การไม่รับรู้ประโยชน์ของการฉีดวัคซีน อีกทั้งยังมีอุปสรรคต่อการเดินทางไปฉีดวัคซีนที่สถานพยาบาล มีความกังวล กลัวผลข้างเคียงจากวัคซีน ซึ่งการไม่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 นั้นย่อมส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อร่างกาย จิตใจ และเศรษฐกิจตามมา

 

ดังนั้น นางสาวสาธิดา ต๊ะคีรี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน โครงการจัดตั้งมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตนครสวรรค์ ร่วมกับโรงพยาบาลบางปลาม้า ผู้นำชุมชน และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ได้ดำเนินโครงการ “สร้างภูมิ เสริมพลัง ต้านภัยโควิด” ณ ชุมชนบ้านโคกครามสามัคคี ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ระหว่างวันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2564 – วันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2565 ซึ่งทางนักศึกษาได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาสุขภาพดังกล่าวด้วยการใช้เครื่องมือและวิธีการต่าง ๆ ที่นักศึกษาได้ออกแบบเองโดยร่วมมือกับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ผู้นำชุมชน และ อสม. ในการใช้แรงสนับสนุนทางสังคมทั้งการให้ข้อมูลผ่านคู่มือที่น่าสนใจ เข้าใจง่าย และทำให้คนในชุมชนที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนดังกล่าวจำนวนทั้งสิ้น 30 คน ได้รับรู้โอกาสเสี่ยงของการไม่ฉีดวัคซีน การรับรู้ประโยชน์ของการฉีดวัคซีน รวมไปถึงการสนับสนุนทางด้านอารมณ์ คลายความกังวลเรื่องผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน และช่วยอำนวยความสะดวกพาคนในชุมชนไปฉีดวัคซีนที่สถานพยาบาล จนทำให้อัตราการได้รับวัคซีนของคนในชุมชนเพิ่มมากขึ้น

 

ทั้งนี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความอนุเคราะห์ในการดำเนินโครงการและจะนำโครงการของนักศึกษาไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานในอนาคตเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน(Sustainable Development Goals: SDGs) สืบต่อไปในอนาคต 

SDGs หลักที่สอดคล้องกับกิจกรรม*

SDGs 3

เป้าประสงค์ย่อยใน SDG หลัก*

3.8

SDGs อื่น ๆ ที่สอดคล้อง

เป้าประสงค์ย่อยใน SDG อื่นๆ

Links ข้อมูลเพิ่มเติม *

https://www.facebook.com/402782096876991/posts/1283976538757538/?d=n

โปรดแนบลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

โปรดแนบลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

MU-SDGs Strategy*

ยุทธศาสตร์ที่ 3

Partners/Stakeholders*

1. โรงพยาบาลบางปลาม้า อ.บางปลามม้า จ.สุพรรณบุรี

2. อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หมู่ 7 บ้านปากคลองกุ่ม ต.โคกคราม อ.บางปลามม้า จ.สุพรรณบุรี

ภาพประกอบ (3-5 ภาพ)*

Key Message*

การเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนด้วยการร่วมมือร่วมใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนในให้แรงสนับสนุนทางสังคมเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

ตัวชี้วัด THE Impact* Rankings ที่สอดคล้อง

3.3.1, 3.3.2

 

โครงการการเดินทางสู่หมู่บ้านคลายความเครียด

MU-SDGs Case Study*

โครงการการเดินทางสู่หมู่บ้านคลายความเครียด

ผู้ดำเนินการหลัก*

นางสาวพรรณวดี ระกุล นักศึกษาชั้นปีที่ 4 หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน

ส่วนงานหลัก*

หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน โครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ผู้ดำเนินการร่วม

คณาจารย์หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน

ส่วนงานร่วม

เนื้อหา*

จากการศึกษาปัญหาสุขภาพชุมชน พบว่า สถานการณ์โรค COVID-19 ทำให้คนในชุมชนเกิดความเครียด และมีบางรายฆ่าตัวตายสำเร็จ โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการขาดการจัดการความเครียด การขาดการได้รับคำปรึกษาจากคนรอบข้าง ซึ่งปัญหาดังกล่าวนั้นส่งผลกระทบต่อสุขภาพกาย และสุขภาพจิตของคนในชุมชนเป็นอย่างมาก

 

นางสาวพรรณวดี ระกุล นักศึกษาชั้นปีที่ 4 หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน โครงการจัดตั้งมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตนครสวรรค์ ร่วมกับโรงพยาบาลบางปลาม้า และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ได้ดำเนินโครงการ “การเดินทางสู่หมู่บ้านคลายความเครียด” ณ ชุมชนบ้านปากคลองกุ่ม ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ระหว่างวันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2564 – วันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2565

ซึ่งทางนักศึกษาได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาสุขภาพดังกล่าวด้วยการใช้เครื่องมือและวิธีการต่าง ๆ ที่นักศึกษาได้ออกแบบเองโดยร่วมมือกับบุคลากรทางการแพทย์ และ อสม. ในการใช้แรงสนับสนุนทางสังคมทั้งการให้ข้อมูลผ่านแผ่นพับที่น่าสนใจและเข้าใจง่าย การสนับสนุนทางด้านอารมณ์ผ่านการทำตุ๊กตาบีบคลายเครียด และการส่งข้อความให้กำลังใจ อีกทั้งผู้ที่มีภาวะเครียดในชุมชนสามารถประเมินความเครียดของตนได้เอง และมีช่องทางต่าง ๆ ที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพจิต ซึ่งทำให้กลุ่มคนดังกล่าวมีความเครียดลดลง และมีกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป

 

ทั้งนี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความอนุเคราะห์ในการดำเนินโครงการและจะนำโครงการของนักศึกษาไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานในอนาคตเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน(Sustainable Development Goals: SDGs) สืบต่อไปในอนาคต 

SDGs หลักที่สอดคล้องกับกิจกรรม*

SDGs 3

เป้าประสงค์ย่อยใน SDG หลัก*

3.4

SDGs อื่น ๆ ที่สอดคล้อง

เป้าประสงค์ย่อยใน SDG อื่นๆ

Links ข้อมูลเพิ่มเติม *

https://www.facebook.com/402782096876991/posts/1283329225488936/?d=n

โปรดแนบลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

โปรดแนบลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

MU-SDGs Strategy*

ยุทธศาสตร์ที่ 3

Partners/Stakeholders*

1. โรงพยาบาลบางปลาม้า อ.บางปลามม้า จ.สุพรรณบุรี

2. อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หมู่ 7 บ้านปากคลองกุ่ม ต.โคกคราม อ.บางปลามม้า จ.สุพรรณบุรี

ภาพประกอบ (3-5 ภาพ)*

 
  

Key Message*

การลดระดับความเครียดในผู้ดูแลผู้ป่วยติดบ้าน ติดเตียงด้วยการร่วมมือร่วมใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนในให้แรงสนับสนุนทางสังคมเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

ตัวชี้วัด THE Impact* Rankings ที่สอดคล้อง

3.3.1, 3.3.2

 

โครงการคู่มือเพื่อนซี้ คู่หูคลายเครียด self-talk meditation

MU-SDGs Case Study*

โครงการคู่มือเพื่อนซี้ คู่หูคลายเครียด self-talk meditation

ผู้ดำเนินการหลัก*

นายดรัล รักธัญญะการ

นักศึกษาชั้นปีที่ 4 หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน

ส่วนงานหลัก*

หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน โครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ผู้ดำเนินการร่วม

คณาจารย์หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน

ส่วนงานร่วม

เนื้อหา*

จากการศึกษาปัญหาสุขภาพชุมชน พบว่า ผู้ดูแลผู้ป่วยติดบ้าน ติดเตียงถือว่าเป็นกำลังสำคัญหลักในครอบครัวนั้นมีแนวโน้มประสบกับปัญหาทางด้านอารมณ์และความเครียดเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งกลุ่มผู้ดูแลดังกล่าวนั้นยังถูกถูกละเลยการประเมินสภาพจิตใจตามขั้นตอนที่ถูกต้องและเหมาะสมทำให้คุณภาพการดูแลสุขภาพจิตของผู้ดูแลลดลงและขาดวิธีการที่ถูกต้องในการลดความเครียด ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพกายและสุขภาพจิตตามมาได้ในอนาคต

 

ดังนั้น นายดรัล รักธัญญะการ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน โครงการจัดตั้งมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตนครสวรรค์ ร่วมกับศูนย์สุขภาพชุมชนตำบลหนองหาร โรงพยาบาลสันทราย ผู้นำชุมชน และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ได้ดำเนินโครงการ “คู่มือเพื่อนซี้ คู่หูคลายเครียด self-talk meditation” ณ ชุมชนบ้านทุ่งหมื่นน้อย ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2564 – วันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2565 ซึ่งทางนักศึกษาได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาสุขภาพดังกล่าวด้วยการใช้เครื่องมือและวิธีการต่าง ๆ ที่นักศึกษาได้ออกแบบเองโดยร่วมมือกับบุคลากรทางการแพทย์ ผู้นำชุมชน และ อสม. ในการให้แรงสนับสนุนทางสังคมทั้งการให้ข้อมูลวิธีการคลายเครียดผ่านทางคู่มือที่มีความน่าสนใจและเข้าใจง่าย ประกอบกับการสนับสนุนทางด้านอารมณ์ผ่านการให้กำลังใจในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งทำให้กลุ่มผู้ดูแลดังกล่าวมีระดับความเครียดที่ลดลง

 

ทั้งนี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความอนุเคราะห์ในการดำเนินโครงการและจะนำโครงการของนักศึกษาไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานในอนาคตเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน(Sustainable Development Goals: SDGs) สืบต่อไปในอนาคต 

SDGs หลักที่สอดคล้องกับกิจกรรม*

SDGs 3

เป้าประสงค์ย่อยใน SDG หลัก*

3.4

SDGs อื่น ๆ ที่สอดคล้อง

เป้าประสงค์ย่อยใน SDG อื่นๆ

Links ข้อมูลเพิ่มเติม *

https://www.facebook.com/402782096876991/posts/1283324588822733/?d=n

โปรดแนบลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

โปรดแนบลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

MU-SDGs Strategy*

ยุทธศาสตร์ที่ 3

Partners/Stakeholders*

1. โรงพยาบาลสันทราย อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่

2. ศูนย์สุขภาพชุมชนตำบลหนองหาร โรงพยาบาลสันทราย อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่

3. ผู้นำชุมชน หมู่ 9 บ้านทุ่งหมื่นน้อย  ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่

4. อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หมู่ 9 บ้านทุ่งหมื่นน้อย ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่

ภาพประกอบ (3-5 ภาพ)*

   
  

Key Message*

การลดระดับความเครียดในผู้ดูแลผู้ป่วยติดบ้าน ติดเตียงด้วยการร่วมมือร่วมใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนในให้แรงสนับสนุนทางสังคมเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

ตัวชี้วัด THE Impact* Rankings ที่สอดคล้อง

3.3.1, 3.3.2

 

โครงการชาวสวนปลอดภัย ห่างไกล MSDs

MU-SDGs Case Study*

โครงการชาวสวนปลอดภัย ห่างไกล MSDs

ผู้ดำเนินการหลัก*

นางสาวอาวาติฟ ยานยา

นักศึกษาชั้นปีที่ 4 หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน

ส่วนงานหลัก*

หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน โครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ผู้ดำเนินการร่วม

คณาจารย์หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน

ส่วนงานร่วม

เนื้อหา*

จากการศึกษาปัญหาสุขภาพชุมชน พบว่า กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราในพื้นที่ มีแนวโน้มของความผิดปกติทางระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อ (Musculoskeletal disorders: MSDs) เพิ่มมากขึ้น และเกษตรกรกลุ่มดังกล่าวขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการป้องกันตนเองจากโรคที่เกิดจากการทำงานมีการปฏิบัติงานที่ถูกต้องตามหลักการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน รวมทั้งขาดอุปกรณ์ที่ช่วยบรรเทาความเมื่อยล้าหลังจากการทำงาน ซึ่งปัญหาสุขภาพดังกล่าวนั้นส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและสุขภาะจิตของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางเป็นอย่างยิ่ง

 

ดังนั้น นางสาวอาวาติฟ ยานยา นักศึกษาชั้นปีที่ 4 หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน โครงการจัดตั้งมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตนครสวรรค์ ร่วมกับหน่วยบริการปฐมภูมิ (Primary Care Unit: PCU) คลินิกแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลคลองท่อม ผู้นำชุมชน และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ได้ดำเนินโครงการ “ชาวสวนปลอดภัย ห่างไกล MSDs” ณ ชุมชนบ้านเหนือ ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ระหว่างวันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2564 – วันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2565 ซึ่งทางนักศึกษาได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาสุขภาพดังกล่าวด้วยการใช้เครื่องมือและวิธีการต่าง ๆ ที่นักศึกษาได้ออกแบบเองโดยร่วมมือกับบุคลากรทางการแพทย์ ผู้นำชุมชน และ อสม. ในการสร้างเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรค MSDs เพื่อนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอันเป็นสาเหตุของการบาดเจ็บจากการทำงานให้แก่กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราจำนวนทั้งสิ้น 15 คน พร้อมทั้งยังร่วมมือกับหน่วยงานข้างต้น และเกษตรกรกลุ่มดังกล่าวในการนำสมุนไพรพื้นถิ่นมาผลิตนวัตกรรมแผ่นประคบร้อนสมุนไพรบรรเทาอาการปวดเบื้องต้นอีกด้วย

 

ทั้งนี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความอนุเคราะห์ในการดำเนินโครงการและจะนำโครงการของนักศึกษาไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานในอนาคตเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน(Sustainable Development Goals: SDGs) สืบต่อไปในอนาคต  

SDGs หลักที่สอดคล้องกับกิจกรรม*

SDGs 3

เป้าประสงค์ย่อยใน SDG หลัก*

3.4

SDGs อื่น ๆ ที่สอดคล้อง

เป้าประสงค์ย่อยใน SDG อื่นๆ

Links ข้อมูลเพิ่มเติม *

https://www.facebook.com/402782096876991/posts/1283319492156576/?d=n

โปรดแนบลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

โปรดแนบลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

MU-SDGs Strategy*

ยุทธศาสตร์ที่ 3

Partners/Stakeholders*

1. โรงพยาบาลคลองท่อม อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่

2. หน่วยบริการปฐมภูมิ โรงพยาบาลคลองท่อม อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่

3. คลินิกแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลคลองท่อม อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่

4. อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หมู่ที่ 1 ตำบลคลองท่อมใต้ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่

5. ผู้นำชุมชนหมู่ที่ 1 ตำบลคลองท่อมใต้ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่

ภาพประกอบ (3-5 ภาพ)*

 
 

Key Message*

การแก้ปัญหาความผิดปกติทางระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อของเกษตรกรด้วยการร่วมมือร่วมใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนในการสร้างเสริมความรู้เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว และนำสมุนไพรพื้นถิ่นมาผลิตนวัตกรรมแผ่นประคบร้อนสมุนไพรบรรเทาอาการปวดเบื้องต้นเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

ตัวชี้วัด THE Impact* Rankings ที่สอดคล้อง

3.3.1, 3.3.2

 

โครงการป่าสักรวมใจ เด็กไทยฟันดี

MU-SDGs Case Study*

โครงการป่าสักรวมใจ เด็กไทยฟันดี

ผู้ดำเนินการหลัก*

นางสาวมณีรัตน์  ไตรรัตน์

นักศึกษาชั้นปีที่ 4 หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน

ส่วนงานหลัก*

หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน โครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ผู้ดำเนินการร่วม

คณาจารย์หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน

ส่วนงานร่วม

เนื้อหา*

จากการศึกษาปัญหาสุขภาพชุมชน พบว่า สถานการณ์โรค COVID-19 ทำให้เด็กนักเรียนไม่สามารถเข้ารับบริการเกี่ยวกับทันตสุขภาพได้ และจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารของเด็กนักเรียนที่บริโภคที่ไม่เหมาะสม และการดูแลสุขภาพในช่องปากที่ไม่ถูกวิธี จึงทำให้เด็กนักเรียนมีปัญหาฟันผุเพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตของเด็กนักเรียน และอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมาได้อีกในอนาคต

ดังนั้น นางสาวมณีรัตน์ ไตรรัตน์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน โครงการจัดตั้งมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตนครสวรรค์ จึงร่วมมือกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดาวเรือง อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และโรงเรียนวัดป่าสัก ในการดำเนินโครงการ “ป่าสักรวมใจ…เด็กไทยฟันดี” ณ ชุมชนบ้านป่าสัก ต.ดาวเรือง อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี ระหว่างวันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2564 – วันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2565 ซึ่งทางนักศึกษาได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาสุขภาพดังกล่าวด้วยการใช้เครื่องมือและวิธีการต่าง ๆ ที่นักศึกษาได้ออกแบบเองโดยร่วมมือกับบุคลากรทางการแพทย์ อสม. และอาจารย์ในโรงเรียน ในการสร้างเสริมความรู้ในเรื่องสุขภาพในช่องปาก และการแปรงฟันที่ถูกต้อง สร้างเสริมเจตคติและพฤติกรรมในเรื่องสุขภาพในช่องปาก และการแปรงฟันที่ถูกต้อง และเพิ่มพูนทักษะในการแปรงฟันที่ถูกวิธีให้แก่เด็กวัยเรียนในชุมชนจำนวนทั้งสิ้น 16 คน

ทั้งนี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความอนุเคราะห์ในการดำเนินโครงการและจะนำโครงการของนักศึกษาไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานในอนาคตเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน(Sustainable Development Goals: SDGs) สืบต่อไปในอนาคต  

SDGs หลักที่สอดคล้องกับกิจกรรม*

SDGs 3

เป้าประสงค์ย่อยใน SDG หลัก*

3.4

SDGs อื่น ๆ ที่สอดคล้อง

เป้าประสงค์ย่อยใน SDG อื่นๆ

Links ข้อมูลเพิ่มเติม *

https://www.facebook.com/402782096876991/posts/1283314278823764/?d=n

โปรดแนบลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

โปรดแนบลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

MU-SDGs Strategy*

ยุทธศาสตร์ที่ 3

Partners/Stakeholders*

1. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดาวเรือง อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี

2. อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หมู่ 4 บ้านป่าสัก ต.ดาวเรือง อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี

3. โรงเรียนวัดป่าสัก หมู่ 4 บ้านป่าสัก ต.ดาวเรือง อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี

ภาพประกอบ (3-5 ภาพ)*

   




Key Message*

การแก้ปัญหาสุขภาพช่องปากของเด็กวัยเรียนด้วยการร่วมมือร่วมใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนในการสร้างเสริมความรู้ เจตคติ และทักษะในการดูแลสุขภาพช่องปากให้แก่เด็กวัยเรียนเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

ตัวชี้วัด THE Impact* Rankings ที่สอดคล้อง

3.3.1, 3.3.2