วัคซีน คืออะไร

ฉีด-ช่วย-ชาติ
.สืบเนื่องจากการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าในบ้านเรา ที่ไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลายภายในระยะเวลาอันสั้น ประกอบกับทางกระผมเองเคยรับปากในบทความก่อนหน้านี้ว่าจะให้ข้อมูลเรื่อง “วัคซีนในสัตว์เลี้ยง” ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการเขียนในครั้งนี้ สำหรับเป้าประสงค์ของบทความนี้คือต้องการให้ผู้อ่านเข้าใจง่ายที่สุด เพราะฉะนั้นกระผมขออนุญาตเลี่ยงการใช้ภาษาหรือคำศัพท์ทางวิชาการนะครับ
.
.เริ่มกันเลยดีกว่า วัคซีน คืออะไร
.
วัคซีน คือ เชื้อโรคที่ผ่านกระบวนการซึ่งทำให้เชื้อดังกล่าวนั้นไม่สามารถก่อโรคได้ ในทางตรงกันข้ามกลับสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และป้องกันโรคนั้น ๆ ให้แก่ร่างกายเมื่อได้รับวัคซีน
.
ยกตัวอย่าง เช่น วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้านั้นก็ทำมาจาก เชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคพิษสุนัขบ้านั่นแหละ โดยจะนำเชื้อดังกล่าวมาผ่านกรรมวิธีต่าง ๆ ทำให้เชื้อโรคไม่มีอันตรายแก่สัตว์ที่ได้รับวัคซีน และสัตว์ที่ได้รับวัคซีนนั้นก็สามารถสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคพิษสุนัขบ้า แต่สำหรับโรคอื่น ๆ เช่น โรคลำไส้อักเสบ หรือไข้หัด ก็ยังมีความเสี่ยงและสามารถเป็นได้ตามปกติ หากไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน (กำลังจะบอกว่าการทำวัคซีนโรคไหน ก็จะมีผลแค่กับโรคนั้นนะครับ)
.
.เนื่องจากวัคซีนมีมากมายเหลือเกิน อยากรู้ว่าเจ้าตูบ และ เจ้าเหมียว ต้องทำวัคซีนอะไรบ้าง
.
คำถามนี้เป็นคำถามที่สำคัญ, พบบ่อย และบางประเด็นก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ อย่างไรก็ตามก่อนตอบคำถามนี้กระผมขอเกริ่นเรื่องประเภทของวัคซีนสักเล็กน้อยครับ
.
วัคซีนในสุนัขและแมว แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท (ตามความสำคัญ)
.
1.วัคซีนหลัก คือ วัคซีนที่ ต้องทำ ให้แก่สัตว์เลี้ยงของท่าน เนื่องจากโรคดังกล่าวเป็นโรคที่สามารถทำอันตรายถึงชีวิตแก่ตัวสัตว์เองรวมถึงเจ้าของ และเป็นโรคที่พบได้บ่อยรวมถึงยังมีการระบาดอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งแน่นอนครับประกอบด้วย วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า (ทั้งสุนัขและแมว), วัคซีนรวม-สุนัข (วัคซีนป้องกันโรคลำไส้อักเสบ, ไข้หัดและตับอักเสบ), วัคซีนรวม-แมว (วัคซีนป้องกันโรคไข้หัดและหวัดแมว) โรคที่กล่าวมาข้างต้นผมเชื่อว่าทุกท่านน่าจะรู้จัก หรืออาจจะเคยประสบมาแล้วด้วยซ้ำไป คงไม่ต้องบอกนะครับ ว่าพวกมันร้ายกาจขนาดไหน
.
2.วัคซีนทางเลือก คือ วัคซีนที่อาจจะพิจารณาฉีด หรือ ไม่ฉีด ก็ได้ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงในการเป็นโรค และพื้นที่ที่สัตว์อาศัยอยู่ ยกตัวอย่างวัคซีนทางเลือกในสุนัข เช่น วัคซีนป้องกันโรคฉี่หนู และหลอดลมอักเสบติดต่อ ส่วนในแมวยกตัวอย่างเช่น โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว
.
3.วัคซีนที่ไม่แนะนำให้ใช้ ขออนุญาตไม่กล่าวถึงรายละเอียดนะครับ เนื่องจากวัคซีนในกลุ่มนี้กำลังเป็นที่ถกเถียงถึงความสำคัญของการได้รับวัคซีน และยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีน ตัวอย่าง วัคซีนในกลุ่มนี้ก็เช่น วัคซีนป้องกันโรคเอดส์แมว เป็นต้น
.
*หมายเหตุ วัคซีนหลักและทางเลือก ที่ยกตัวอย่างมาให้อาจจะไม่เหมือนกันในแต่ล่ะพื้นที่ หรือแต่ล่ะประเทศ โดยข้อมูลที่ยกมานั้นเป็นวัคซีนของประเทศไทยส่วนใหญ่ครับ
.
จากที่เกริ่นมาซะยืดยาว สรุป เจ้าตูบ และ เจ้าเหมียว ต้องทำ “วัคซีนหลัก” ในข้อ 1 นะครับ ส่วนวัคซีนทางเลือก ควรจะทำหรือไม่นั้นไปปรึกษาสัตวแพทย์จะสะดวกกว่า
.
*สุนัขและแมวของท่านสามารถนำไปเริ่มฉีดวัคซีนและวางโปรแกรมสุขภาพได้ตั้งแต่อายุประมาณ 2 เดือนขึ้นไปนะครับ
.
หากทำวัคซีนแล้ว สุนัข และแมวยังสามารถเป็นโรคนั้น ๆ ได้อยู่หรือไม่
.
คำตอบ คือ ได้อยู่ครับ
อันแน่……ออเจ้าหลายท่านคงคิ้วขมวดอยู่เป็นแน่ และคงมีคำถามว่า แล้วเราจะทำวัคซีนแก่สัตว์เลี้ยงไปเพื่อ ??? แต่เดี๋ยวก่อน ถึงแม้ว่าจะมีรายงานว่า สัตว์ที่ได้รับวัคซีนจะมีโอกาสเป็นโรคได้อยู่ แต่โอกาสนั้นค่อนข้างน้อยมาก (หากทำตามโปรแกรมที่สัตวแพทย์ให้อย่างเคร่งครัด) เนื่องจากปัจจุบันประสิทธิภาพของวัคซีน โดยเฉพาะวัคซีนประเภทหลักนั้นสูงมาก ยิ่งโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งเป็นโรคที่สามารถติดต่อจากสัตว์สู่คนได้และไม่มีทางรักษา เหตุนี้เองจึงทำให้มีการพัฒนาประสิทธิภาพของวัคซีนนี้และได้ผลเป็นที่น่าพอใจ โดยมีการศึกษาพบว่าหากสัตว์เลี้ยงได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าที่มีคุณภาพและฉีดในช่วงเวลาที่เหมาะสม พบว่าประสิทธิภาพในการป้องกันโรคของวัคซีนนั้นเกือบจะ 100 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
.
ประโยชน์อีกประการนึงที่สำคัญคือ การทำวัคซีนนั้น นอกจากจะเป็นการสร้างภูมิและป้องกันโรครายตัว (ตัวที่ได้รับวัคซีน) แล้ว ยังเป็นการควบคุมและป้องกันโรคในระดับประชากรสัตว์รวมถึงมนุษย์ได้อีกด้วย (ในกรณีเป็นโรคที่สามารถติดต่อจากสัตว์สู่คน) โดยตัวอย่างที่เห็นชัดเจนและเป็นรูปธรรมของการขาดภูมิคุ้มกันในระดับฝูงปัจจุบันคือ การระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าในบ้านเรา
.
สุดท้ายนี้ หากจะกล่าวว่า
.
“การฉีดวัคซีนให้สัตว์เลี้ยงนั้น ไม่เพียงเป็นการช่วยชีวิตสัตว์ของท่านเอง แต่ยังเป็นการทำเพื่อมวลมนุษยชาติไปพร้อมกัน คำกล่าวนี้ก็คงจะไม่ไกลเกินความจริงไปสักเท่าใดนัก”
.
“ มนุษย์มิได้อยู่ได้เพียงลำพัง แต่เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของระบบนิเวศอันยิ่งใหญ่ ที่ซึ่งทุกสรรพสิ่งล้วนมีความเกี่ยวพัน “
.ONE HEALTH
.ONE LOVE
.ONE HEART